คนไทยในสมัยก่อนไม่พิถีพิถันในการตั้งชื่อบุตรหลานเท่าใดนัก ไม่คำนึงว่าเกิดวันไหนชื่อต้องขึ้นต้นด้วยอักษรอะไร คงตั้งชื่อเอาตามชอบใจ ส่วนมากก็ตั้งตามพ่อแม่ เช่น พ่อชื่อแสง ตั้งชื่อว่า สี เสริม สุข สม อะไรเหล่านี้ เป็นต้น และชื่อคนสมัยก่อนมักนิยมคำไทยแท้ มีพยางค์เดียวไม่ยาวเฟื้อย เรียกยากเขียนยากเหมือนสมัยนี้ จะมีก็เฉพาะในแวดวงขุนน้ำขุนนางเท่าน้ำที่นิยมชื่อยาว ๆ โดยเฉพาะพระนามของเจ้านายในราชสกุล ต้องมีนักปราชญ์ผุ้ชำนาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะ เป็นคนคิดถวาย ยกเว้นพระมหากษัตริย์บางพระองค์ เช่นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯเท่านั้น ที่ทรงคิดพระนามพระเจ้าลูกยาเธอ และพระเจ้าลูกเธอด้วยพระองเอง
เล่ากันว่า เวลาเจ้าจอมประสูติพระราชโอรสหรือพระราชธิดา พระจอมเกล้าจะทรงคิดพระนามที่เหมาะสมให้ พร้อมพระราชนิพนธ์คาถาบาลีอวยพรให้เสร็จ อย่างเช่นคราวประสูติสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระองค์ทรงคิดพระนามให้พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร (อ่านว่า ดิดวอระกุมาน)ทรงนิพนธ์คาถาอวยพรให้เป็นภาษาบาลีแปลเป็นไทยว่า
ขอให้กุมารชื่อ"ดิศวรกุมาร"นี้จงมีความสุขทุกเมื่อ ขอจงมีอายุยืน มีวรรณะผ่องใส มีความและกำลัง มีปัญญาเฉียบแหลม มีปฎิภาณ มียศ มีความสุข มีฤทธิ์มาก ดำรงอยุ่ด้วยดีตลอดการลนาน อาจหาญในที่ทุกสถาน และขอจงรักษาสกุลวงศ์และจรรยาอันดีงาม ไดัชัยชนะเหนื่อศัตรูทั้งปวงขอให้บุตรเจ้าจอมมารดาชุ่มผู้มีชื่อว่า "ดิศวรกุมาร" นี้ จงมีความสุข มีอายุยืน มีฤทธิ์ตลอดไป ขอพระรัตนตรัย จงเป็นสรณะของเธอ และจงพิทักษ์รักษาเธอทุกเมื่อ เทอญ
สมเด็จกรมพระยาเทววงศ์วโรปการทรงเคยตั้งข้อสังเกตว่า พรที่พระราชทานพระราชโอรส พระราชฺธิดามีแปลก ๆ กันทุกองค์ และมักมีผลต่อพระชาตาของผู้ที่ได้รับพระราชทานพรเสมอ สมเต็จกรมพระยาดำรงค์ฯเองยังรับสั่งว่า พระธิดาของพระองค์อ่านดูแล้วพูดว่า "พรที่ทูลกระหม่อมปู่พระราชทานเสด็จพ่อ ไม่เห็นมีว่าให้มั่งมี" (เหตุนี้กระมังพระองค์จึงเป็นเจ้าที่ค่อนข้างจน แต่ก็รวยเกียรติคุณยิ่ง"
ที่น่่าสังเกตุคือ คำว่า "ติสสะ หรือ ดิศ" เป็นชื่อที่เป็นมงคลในพุทธศาสนาพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ก็มีชื่อลงท้ายว่าติสสะ พระเถระที่เป็นประธานในการทำสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่สามก็ชื่อนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าจึงทรงนำเอามาตั้งพระนามพระราชโอรสเพื่อเป็นสิริมงคล เวลาที่ทรงคิดชื่อ ไม่เพียงแต่ทรงตรวจสอบตามหลักโหราศาสตร์เท่านั้น ยังทรงนำเอาเรื่องราวทางศาสนามาประกอบด้วย อย่างกรณีตั้งพระนามสมเด็จพระนามสมเต็จพระมาหสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสเป็นตัวอย่าง
ว่ากันว่า วันที่สมเต็จฯองค์นี้ประสูติมีพายุฝนตกหนักจนน้ำนองชาลาพระตำหนักทั้งที่ก่อนหน้านั้นท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีเค้าฝนจะตกเลย พระราชบิดาทรงหวนรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ ๆ ประทับนั่งใต้ต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) ฝนตกหนัก มีพญานาคมาขดรอบพระองค์ แผ่พังพานเหนื่อพระเศียรบังลมและฝนให้ ครั้นฝนหายแล้วจึงจำแลงกายเป็นมานพน้อยเข้ามายืนเฝ้า ทรงเห็นว่าพระราชโอรสประสูติในเวลาอันเป็นมงคล เป็นนิมิตหมายจะเจริญรู่งเรื่องในอนาคต จึงทรงขนานนามว่า พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ แปลว่า "หนุ่มน้อยนาคจำแลงเป็นคน" หรือ "คนนาคน้อย"
มีเกร็ดขำ ๆ เกี่ยวกับพระนามนี้ว่า คราวหนึ่งพระจอมเกล้าฯ ตรัสถามเสด็จพระสังฆราชสาเมื่อครั้งยังเป็นพระศาสนโศภนว่า คนชื่อคนมีไหม พระศาสนโศภณถวายพระพรว่าไม่มี ทรงชี้ไปที่พระองศ์เจ้ามนุษย์นาคมานพ ซึ่งอยู่เบื้องพระปฤษฏางค์ว่า นี่ไงคนชื่อคน

วิธีการตั้งชื่อ ทำอย่างไร

การตั้งฉายาหรือชื่อพระ กับตั้งชื่อฆราวาสไม่เหมือนกัน คือ ฉายาพระใช้อักษรวรรคบริวารนำหน้า สำหรับฆราวาส ถ้าเป็นชายใช้อักษรวรรคเดชนำหน้าชื่อ หญิงใช้อักษรวรรคศรีนำหน้าชื่อ
1-อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
2-ก ข ค ฆ ง
3-จ ฉ ช ซ ฌ ญ
4-ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ
5-บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
6-ศ ส ษ ห ฬ ฮ
7-ด ต ถ ท ธ น
8-ย ร ล ว
หมายเลข 1 เป็นเครื่องหมายแทนวันอาทิตย์
หมายเลข 2-แทนวันจันทร์
หมายเลข 3-แทนวันอังคาร
หมายเลข 4-แทนวันพุธกลางวัน
หมายเลข 5-แทนวันพฤหัสบดี
หมายเลข 6-แทนวันศุกร์
หมายเลข 7-แทนวันเสาร์
หมายเลข 8แทนวันราหู หรือ วันพุธกลางคืน
เพื่อให้ง่ายในการใช้งานจึงสรุปได้เป็นดังนี้
อาทิตย์-บริวาร1 อายุ2 เดช3 ศรี4 มูละ7 อุตสาหะ5 มนตรี8 กาลกิณี6
จันทร์-บริวาร2 อายุ3 เดช4 ศรี7 มูละ5 อุตสาหะ8 มนตรี6 กาลกิณี1
อังคาร-บริวาร3 อายุ4 เดช7 ศรี5 มูละ8 อุตสาหะ6 มนตรี1 กาลกิณี2
พุูธ-บริวาร4 อายุ7 เดช5 ศรี8 มูละ6 อุตสาหะ1 มนตรี2 กาลกิณี3
พฤหัสบดี-บริวาร5 อายุ8 เดช6 ศรี1 มูละ2 อุตสาหะ3 มนตรี4 กาลกิณี7
ศุกร์-บริวาร6 อายุ1 เดช2 ศรี3 มูละ4 อุตสาหะ7 มนตรี5 กาลกิณี8
เสาร์-บริวาร7 อายุ5 เดช8 ศรี6 มูละ1 อุตสาหะ2 มนตรี3 กาลกิณี4
พุธกลางคืน-บริวาร8 อายุ6 เดช1 ศรี2 มูละ3 อุตสาหะ4 มนตรี7 กาลกิณี5
อักษรที่ห้ามใช้คืออักษรกาลกิณี

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ชือ เพศ อ่าน แปล
ภคนันท์ หญิง พะคะนัน ยินดีในโชค
ภคพร หญิง พะคะพอน มีโชคเป็นพร
ภคิน ชาย พะคิน ผู้มีโชค,มีสิริมงคล
ภณ ชาย พน พูดหรือกล่าว
ภพธร ชาย พบทอน ทรงไว้ซึ่งความเจริญ,ทรงภพ
ภพธรรม ชาย พบทำ ธรรมประจำภพหรือในโลก
ภพนิพิฐ ชาย พบนิพิด ผู้ดำรงมั่นในภพหรือในโลก
ภพสรรค์ ชาย พบสัน สร้างภพ,สร้างโลก
ภรณีนิภา หญิง พะระนีนิพา แสงแห่งกลุ่มดาวฤกษ์ภรณี,เหมือนดาวภรณี
ภรภัทร หญิง พรพัด ผู้ค้ำจุนที่ประเสริฐ
ภรัณยา หญิง พะรันยา การบำรุงเลี้ยง,การอุปถัมภ์ค้ำชู
ภรัณยู ชาย พะรันยู ผุ้ปกป้อง,ผู้คุ้มครอง
ภริดา หญิง พะริดา ได้รับการเลียงดู
ภริตพร หญิง พะริดพอน ผู้ประเสริฐที่ได้รับการเลี้ยงดู
ภรัณยู หญิง พะรันยู ผู้ปกป้อง,พระอาทิตย์
ภริตา หญิง พะริตา ได้รับการเลี้ยงดู
ภวรัญชน์ หญิง พะวะรัน ทำให้ชาวโลกยินดี,เป็นที่ยินดีของชาวโลก
ภวัต ชาย พะวัด ผู้เจริญ
ภวิกา หญิง พะวิกา มีความเจริญ
ภวิตรา หญิง พะวิดตรา พื้นโลก,พิภพ
ภวินท์ ชาย พะวิน เจ้าแห่งภพ,เป็นใหญ่ในโลก
ภวิล ชาย พะวิน ความเป็นอยู่,ดำรงอยู่ตลอดกาล
ถวิศ ชาย พะวิด ผู้เป็นใหญ่ในโลก
ภวิษย์พร หญิง พะวิดพอน พรในอนาคต,ผุ้ประเสริฐในกาลข้างหน้า
ภโวทัย ชาย พะโวทัย รุ่งอรุ่ณแห่งภพ,รุ่งเรืองในโลก
ภัคจิรา หญิง พักคะจิรา,พักจิรา มีโชคดีนาน,มีสิริมลคลนาน
ภัคธร ชาย พักคะทอน,พักทอน ผู้ทรงไว้ซึ่งโชค
ภัคธีมา หญิง พักคะทีมา,พักทีมา ผู้ฉลาดในสิ่งที่เป็นสิริมงคล
ภคนันท์ ชาย/หญิง พักคะนัน ยินดีในสิ่งที่เป็นสิริมงคล
ภัคพล ชาย พักคะพน มีโชคดีเป็นพลัง
ภัณฑิรา หญิง พันทิรา มีลาภ,มีความสุข
ภัณฑิลา หญิง พันทิลา มีลาภ,มีความสุข
ภัททิยา หญิง พัดทิยา มีความเจริญ
ภัทรกร ชาย/หญิง พัดทระกอน สร้างสิ่งดีงาม,สร้างสิริมงคล
ภัทรจาริน ชาย พัดทระจาริน มีความประพฤติดี
ภัทรชนน ชาย พัดชะนน ผู้มีกำเนิดอันดีงาม
ภัทรดนัย ชาย พัดทระดะไน ลูกชายผู้เจริญ
ภัทรธร ชาย พัดทระทอน ผู้ทรงไว้ซึ่งสิริมงคล
ภัทรนันท์ ชาย/หญิง พัดทระนัน ผุ้มีกำเนิดดีงาม
ภัทรพรรณ หญิง พัดทระพัน ผิวพรรณงาม
ภัทรภณ ชาย พัดทระพน พูดสิ่งที่ดีงาม,พูดดี
ภัทรภร หญิง พัดทระพอน ผุ้ค้ำจุนที่ประเสริฐ
ภัทรภา หญิง พัดทระพา มีรัศมีงาม
ภัทรมน หญิง พัดทระมน มีใจดีงาม
ภัทรลภา หญิง พัดละพา ผู้ได้รับสิ่งที่ดีงาม,ได้สิริมงคล
ภัทรวดี หญิง พัดทระวะดี มีความเจริญ,มีสิริมงคล
ภัทรวรรณ หญิง พัดทระวัน มีผิวพรรณดีงาม
ภัทรเวช ชาย พัดทระเวด หมอที่ดีงาม
ภัทรศรี หญิง พัดทระสี จันทร์หอม
ภัทรศยา หญิง พัดทระสะยา อยู่อย่างมีความสุข,อยู่อย่างผู้เจริญ
ภัทรศัย ชาย พัดทระสัย อยู่อย่างมีความสุข
ภัทรานิษฐ์ หญิง พัดทรานิด มีความสำเร็จงดงาม,มีจุดหมายปลายทางดี
ภัทราพร หญิง พัดทราพอน ทั้งดีและประเสริฐ
ภัทราวุธ ชาย พัดทราวุด มีอาวุธดี,อาวุธงาม
ภันทิลา หญิง พันทิลา มีลาภ,มีความสุข
ภัสสร หญิง พัดสอน รัศมีเรื่องรอง
ภากร ชาย พากอน ผู้ทำแสงสว่าง,พระอาทิตย์
ภาคิน ชาย พาคิน ผุ้มีโชค,มีกำไร
ภาคินี หญิง พาคินี ผู้มีโชค,ผู้มีส่วนในกิจการต่าง ๆ
ภาณิน ชาย พานิน ผุ้พูดเก่ง,นักพูด
ภาณุพงศ์ ชาย พานุพง เผ่าพันธุ์พระอาทิตย์
ภาณุวิชญ์ ชาย พานุวิด นักปราชญ์ผู้รุ่งโรจน์ดุจพระอาทิตย์
ภาธร ชาย พาทอน ทรงไว้ซึ่งรัศมี,รุ่งเรือง
ภานรินทร์ ชาย พานะริน รัศมีของจอมคน
ภานุกร ชาย พานุกอน แสงอาทิตย์,แสงตะวัน
ภานุรุจ ชาย พานุรุด รุ่งโรจน์ดุจดวงอาทิตย์
ภานุสรณ์ ชาย พานุสอน พึ่งแสงสว่างหรือพระอาทิตย์
ภานุวัฒน์ ชาย พานุวัด เจริญด้วยแสงสว่าง,พระอาทิตย์
ภานุศรี หญิง พานุสี งามเป็นมิ่งขวัญ,งามยิ่ง
ภาพิต หญิง พาพิด ผู้ได้รับการอบรมแล้ว
ภาพิมล หญิง พาพิมน รัศมีไร้มลทิน,รุ่งเรืองยิ่ง
ภาม ชาย พาม เดช
ภารดี หญิง พาระดี เทพแห่งการเจรจา
ภารวี หญิง พาระวี ชื่อของกวี,แสงพระอาทิตย์
ภาวิต หญิง พาวิด ฝึกอบรมตนแล้ว
ภาสพรรณ หญิง พาดสะพัน มีผิวพรรณงดงาม
ภาสวิชญ์ ชาย พาดสะวิด นักปราชญ์ผุ้รุ่งเรือง
ภาสินี หญิง พาสินี มีความรุ่งเรืองสว่างไสว
ภาสวร ชาย พาดสะวอน ผุ้มีรัศมีประเสริฐ,พระอาทิตย์
ภาวนียา หญิง พาวะนียา ผู้ควรสรรเสริญ
ภาวัต ชาย พาวัด มีแสงสว่าง,มีความรุ่งเรือง
ภาวิดา หญิง พาวิดา อบรมแล้ว,ฝึกฝนมาดีแล้ว
ภาวิต ชาย พาวิด อบรมแล้ว,ฝึกฝนมาดีแล้ว
ภาวิตา หญิง พาวิตา อบรมแล้ว,ฝึกฝนมาดีแล้ว
ภาวินี หญิง พาวินี มีความเจริญ
ภิรมณ หญิง พิระมน ยินดียิ่ง,รื่นรมย์ยิ่ง
ภีมเดช ชาย พีมะเดด มีเดชน่าเกรงขาม
ภีมพล ชาย พีมะพน มีพลังน่าเกรงขาม
ภีมพศ ชาย พีมะพด มีอำนาจน่าเกรงขาม
ภีมวัจน์ ชาย พีมะวัด พูดน่าเกรงขาม,พูดมีอำนาจ
ภุชิสส์ ชาย พุชิด ผู้เป็นไท,อิสระ
ภูชิต ชาย พูชิด ผู้ชนะแผ่นดิน
ภูชิสส์ ชาย พูชิด ผู้เป็นไท,อิสระ
ภูดิศ ชาย พูดิด เจ้าแห่งความเจริญ
ภูธน ชาย พูทน มีทรัพย์ในแผ่นดิน,พระราชา
ภูธิป ชาย พูทิบ มีทรัพย์ในแผ่นดิน,พระราชา
ภูบดี ชาย พูบอดี เจ้าแห่งแผ่นดิน,พระราชา
ภูมิ ชาย พูม แผ่นดิน
ภูมินันท์ ชาย พูมินัน ผู้เป็นที่เพลิดเพลินของแผ่นดิน
ภูมิรพี ชาย พูมระพี ผุ้เป็นดุจพระอาทิตย์ในแผ่นดิน
ภูมิรัตน์ หญิง พูมิรัด แก้วของแผ่นดิน
ภูริช ชาย พูริด แผ่นดิน
ภูริญา หญิง พูริชะยา มีปัญญา,นักปราชญ์
ภูริณัฐ ชาย พูรินัด นักปราชญื,ผุ้มีปัญญากว้างขวาง
ภูรินท์ ชาย พุริน เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ภูรี ชาย พูรี แผ่นดิน,ปัญญากว้างไพศาล
ภูวเดช ชาย พูวะเดด ผุ้มีเดชในแผ่นดิน
ภูวนัตถ์ ชาย พูวะนัด มีประโยชน์ในโลก
ภูวิศ ชาย พูวิด ผู้ใหญ่ในแผ่นดิน
ภูษณิศา หญิง พูสะนิสา เจ้าแห่งเครื่องประดับ,งามเลิศ
ภูษิดา หญิง พูสิดา ประดับประดาแล้ว
ภูสิทธิ ชาย พูสิด มีความสำเร็จในแผ่นดิน
โภควินท์ ชาย โพคะวิน ได้รับโภคทรัพย์,มีโภคทรัพย์มาก
โภคิน ชาย โพคิน ผู้มีโภคะ















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น